chaicatawan

ขับ Chevrolet Colorado Trailboss เที่ยวเมืองกาญจน์

 
ขับรถเที่ยว กาญจน์ปลายหนาว ทองผาภูมิ สังขละ ไร่ทองธนา Chevrolet Colorado Trailboss

 
บทความนี้ เป็นตอนขับรถเที่ยวเมืองกาญจน์ ตอนที่2 คลิกดูตอนที่1ได้ครับ https://bit.ly/2SFb2gV

 
ทริปนี้เป็นการขับรถChevrolet เที่ยวเมืองกาญจน์
ดูรายละเอียดรถ Chevrolet ได้ที่เพจ Chevrolet
เว็บไซต์
www.chevrolet.co.th


 
ส่วนที่พัก ลุงชายนอนที่ไร่ทองธนา อ.ทองผาภูมิ 2 คืน
สอบถามข้อมูลของไร่ทองธนาเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ ไร่ทองธนา
โทร 097-997-9965 093-149-9795 และ 096 -828-2935


 
Colorado Trail Boss Edition สี Pull Me Over Red
รถที่ขับเที่ยวทริปนี้ เป็นรถกระบะ 4 ประตูยกสูง แต่งแบบอ๊อฟโรด แม็ค 18 นิ้ว สปอร์ตบาร์แท้จากโรงงาน มีไฟเบรคดวงที่3ให้ กระจังหน้าสีดำ พร้อมด้วยโลโก้โบว์ไทเป็นสีดำ ซุมล้อสีดำ มีสติกเกอร์สีดำเจอะเป็นชื่อรุ่น Colorado ที่ฝาท้ายกระบะ


 
คุณสมบัติพิเศษ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ของ Colorado Trail Boss Edition
• โครงสร้างตัวถังนิรภัยและคานเหล็กนิรภัยกันแรงกระแทกจากด้านข้าง
• ถุงลมนิรภัย SRS สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่
• เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมระบบผ่อนแรง และรั้งกลับอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter) สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
• เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สำหรับผู้โดยสารด้านหลังทุกตำแหน่ง
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
• ระบบป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี(TCS)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยเบรกกะทันหัน (PBA)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA)
• ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP)
• ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะลากจูง (TSC)
• ระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลัง
• กุญแจนิรภัยป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobilizer และสัญญาณเตือนการโจรกรรม
• Chevrolet MyLink ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อรองรับ Apple CarPlay
• กุญแจแบบพับเก็บได้ พร้อมรีโมท คอนโทรล
• กระจกหน้าต่างคู่หน้าจะเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายยิ่งขึ้น

 
ส่วนคืนที่ 3 ลุงไปกางเต็นท์นอนที่จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

 
วัดอู่ล่อง
ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
ขับรถจากวัดท่าขนุน ตามเส้น323 ทางไปสังขละบุรี ไม่ไกลก็ถึงวัดอู่ล่อง ก็เลยแวะไหว้พระครับ วัดอู่ล่องมีเจ้าอาวาสที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่ออุตมะ แห่งวัดวังวิเวการาม สังขละบุรี มีคนเล่าให้ฟังว่า เจ้าอาวาสท่านดูดวงแม่นมาก เสียดายลุงชายไปไม่ได้เจอท่านเจ้าอาวาส ได้แต่ขึ้นไปไหวะพระด้านบนเขา ซึ่งมีเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน มีจุดชมวิวภูเขามุมสูง มาไหว้พระนอนและหลวงพ่อทันใจ


 
น้ำตกเกริงกะเวีย
ก่อนถึงจุดชมวิวป้อมปี่ แวะน้ำตกเกริงกะเวียก่อน เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่ สุงประมาณ 5เมตร อยู่ติดถนน 323 เลย เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม น้ำใส ลงเล่นได้ อย่างปลอดภัย เด็กๆ สามารถก็เล่นได้ มีน้ำไหลตลอดปี แต่วันนี้น้ำน้อยไปนิดครับ แต่ก็ยังน่าเล่น มาเที่ยวได้ง่ายๆจอดรถแล้วเดินอีกนิดเดียวก็ถืงตัวน้ำตก มีห้องน้ำสวยและสะอาดมากกกกกก มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านขายของมากมาย รวมถึงมีจุดให้กางเต็นท์ด้วยครับ


 
ลานกางเต็นท์หญ้าเขียว พื้นเรียบ น่ากาง อยู่ใกล้น้ำตก นอนฟังเสียงน้ำทั้งคืนเลย

 
ห้องน้ำสวยมะว๊ากกกกกกก อยู่ใกล้ลานกางเลยครับ

 
จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
 
ออกจากน้ำตกเกริงกะเวียแล้ว ขับต่อครับ ไม่นานก็ถึง ป้อมปี่ จุดชมวิว บ้านพัก และจุดกางเต็นท์จะอยู่ด้านใน ไม่ติดถนน 323 ขับเข้าไปอีกไม่ไกลนัก จ่ายเงินค่าเข้าอุทยาน 100 และค่ารถยนต์ 30 รวม 130 บาท จ่ายเสร็จก็เลี้ยวซ้ายเข้าจุดกางเต็นท์จุดที่1 เลย ก่อนถึงลานกางจะมีบ้านพักของอุทยานอยู่หลายหลัง น่านอนทั้งนั้น แต่ลุงชายงบน้อย และชอบนอนชิวๆกางเต็นท์มากกว่า ลานกางเต็นท์ป้อมปี่ มีห้องน้ำสะอาดมาก สะดวกสบาย มีอ่างล้างจานให้ใกล้ลาน ส่วนปลั๊กไฟจะมีตรงจุดจอดรถบ้านครับ ชาร์ตแบตโน่นนี่ หรือจะเอาปลั๊กสายยาวๆมาพ่วงก็คงพอได้ครับ

 
มาถึงป้อมปี่ค่อนข้างเย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะตก มีเพื่อนร่วมกางเต็นท์ 6 เต็นท์รวมของลุงชาย นับว่าเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่คุยกันส่งเสียงดัง เงียบมาก ชิลจริงๆ แบบนี้ลุงชายชอบครับ

 
เขาว่า ป้อมปี่ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภาคตะวันตก เห็นท่าจะจริงแฮะ วันนี้ท้องฟ้ามีหมอกควันพอสมควร บรรยากาศท้องฟ้าถูกกรอง ทำให้เห็นไข่แดงพระอาทิตย์แบบกลมๆสวยๆเป็นเวลานาน กว่าจะลับเหลี่ยมเขาและขอบน้ำ

 
จุดชมวิวป้อมปี่ มีจุดให้กางเต็นท์อยู่ 2 จุด จุดแรกที่ลุงชายมากาง สามารถขับรถเข้าไปในลานกางได้เลย ซึ่งสะดวกสบาย ไม่ต้องขนของใกล วิวพระอาทิตย์ตกก็สวยพอๆกันกับจุดที่2 ซึ่งทางอช.ห้ามนำรถเข้าไปยังลาน แต่จะมีรถเข็นให้ยืมขนของครับ โดยลุงชายจะพาไปดูจุดที่2 ในวันรุ่งขึ้น

 
ยามเย็นท้องฟ้าเปลี่ยนสี สวยงาม ก่อนฟ้าจะมืดดำ อุณหภูมิก็เริ่มต่ำลง ความหนาวเย็นกำลังปกคลุมป้อมปี่ บรรยากาศดีๆแบบนี้อยู่กับเราตรงนี้แล้ว ต้องดื่มด่ำให้หนำใจ

 
อรุณสวัสดิ์ป้อมปี่
เช้าวันรุ่งขึ้น ลุงตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ขาว มาเก็บเกี่ยวความงดงามและบรรยากาศที่จะชิว ในใจคิดว่าตรงนี้ไม่ใช่มุมชมพระอาทิตย์ขึ้น คงจะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆแน่ แต่อุณหภูมิยามเช้าที่กำลังเย็นสบาย ทำให้ทุกอย่างดีงาม


 
หลังจากถ่ายรูปดื่มด่ำความงามแล้ว ก็ได้เวลาไปอาบน้ำ ในขณะที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำ เจ้าพระอาทิตย์ก็โชว์ความกลมอวดโฉมงามๆให้เราได้ชื่นชม มือที่ถืออุปกรณ์อาบน้ำ เปลี่ยนมาจับกล้องแทนโดยเร็ว ว้าวววว ไม่นึกว่าจะได้เจอไข่แดงยามเช้าในมุมของลานกางจุดนี้


 
สายแล้ว ใกล้เวลาเก็บเต็นท์แล้วครับ นั่งชิวหน้าเต็นท์ ถ่ายรูปอีก5-6 ใบ


 
เต็นท์บนรถคันนี้ เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ ขับรถเที่ยว 3 คนพ่อแม่ลูก เขาบอกว่าตระเวณไปทั่วโลก รถคันนี้เป็นรถของเค้าเอง แต่ทะเบียนเป็นปัตตานี ช่วงนี้กำลังเดินสายประเทศในย่านนี้ เช่น มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา ลุงคุยกับเค้าแบบงูงูปลาปลา แต่เค้าก็พูดภาษาไทยได้ เราเลยคุยกันรู้เรื่องครับ อิอิ

 
ต่อไปลุงชายจะพาไปดูจุดกางเต็นท์หลักของป้อมปี่ครับ ขับออกมาทางเดิมแล้วเลี้ยวซ้ายไม่กี่ร้อยเมตรครับ ทางอช.ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไปยังลานกาง เราต้องจอดรถแล้วเดินเข้าไปครับ ใกล้ๆกับที่จอดรถจะมีรถเข็นให้ยืมสำหรับขนของครับ ภายในจะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ และบ้านพักหลายหลัง วิวสวยๆทั้งนั้นครับ

 
วัดลิเจีย
อยู่ที่ตำบล ปรังเผล อ.สังขละบุรี
ออกจากป้อมปี่ มุ่งหน้าสังขละครับ แวะวัดลิเจีย วัดลิเจีย เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ด้านในมีพระบรมธาตุสันติธรรมเจดีย์ งดงามมาก อยู่ท่ามกลางขุนเขา


 

วัดสมเด็จใหม่ สังขละบุรี

จากนั้นขับต่อไปครับ ตามถนนหมายเลข323 ไปสังขละ ถนนช่วงนี้ขึ้นเขาชัน และโค้งเยอะ จริงๆระยะทางไม่ไกลครับ แต่ก็ใช้เวลามากพอสมควร ถึงสังขละ แวะไหว้พระที่่วัดสมเด็จใหม่

 
วัดสมเด็จใหม่ อยู่ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี โทร 061 525 1841 ถ้าขับรถไปจากอำเภอทองผาภูมิเข้าสู่อำเภอสังขละบุรี วัดจะตั้งอยู่บริเวณเนินซ้ายมือก่อนถึงที่ว่าการอำเภอ ประมาณ 3 กิโลเมต

 
วัดสมเด็จแห่งนี้ตั้งชื่อตามสมณศักดิ์ของพระสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ท่านมาที่สังขละในปี พ.ศ.2509 และพูดกับหลวงพ่ออุตตมะว่า เนินนี้เป็นทำเลดี เหมาะกับการสร้างวัด วัดจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา หากขับรถไปจากอำเภอทองผาภูมิเข้าสู่อำเภอสังขละบุรี วัดจะตั้งอยู่บริเวณเนินซ้ายมือก่อนถึงที่ว่าการอำเภอ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีศิลปวัฒนธรรมไทยรามัญ (มอญ) และพม่าผสมผสานกันอย่างกลมกลืน และแปลกตาแก่นักท่องเที่ยว

 
ศาลาการเปรียญวัดสมเด็จ เป็นรูปทรงแบบมอญ สร้างโดยพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) ใช้สำหรับทำกิจกรรมศาสนพิธีของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในสังขละ

 
จากนั้นขับต่อครับ ตรงยาวไป ถึงสะพานปูนที่เห็นสะพานมอญในมุมใกล ลุงเลยขอจอดแป๊บนึงเก็บภาพสักหน่อย

 
จุดชมวิวเทศบาลตำบลวังกะ
ขับมาอีกนิดเดียวครับ จะเจอจุดชมวิวเทศบาลตำบลวังกะอยู่ซ้ายมือ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลวังกะ เป็นจุดแวะพักรถและชมวิวแม่น้ำซองกาเลีย จากจุดนี้จะเห็นสะพานมอญทอดตัวยาวผ่านแม่น้ำ เห็นวิถีชีวิตชาวมอญที่อยู่สองฟากฝั่ง


 
สะพานมอญ
สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือ สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวถึง 850 เมตร ใครมาสังขละ ต้องมาสะพานมอญ เป็นไฮไลท์ของสังขละเลย เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ นักท่องเที่ยวนิยมมาตักบาตรในยามเช้า โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะแต่งตัวแบบชาวมอญมาเดินเที่ยว และจะมีน้องๆชาวมอญมาคอยแปะแป้งทานาคาที่แก้มให้ ทำให้ดูกลมกลืนและเข้าถึงวิถีชุมชนอย่างแท้จริง


 
สะพานมอญ ถือสัญลักษณ์ของสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธาที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวสังขละบุรี

 
วัดวังวิเวการาม
วัดวังวิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตมะ เป็นวัดเก่าที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เพราะวัดเก่าโดนน้ำท่วมเนื่องจากการสร้างเขื่อน จึงย้ายขึ้นมาสร้างใหม่ในพื้นที่ปัจจุบัน สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ


 
ออกจากสังขละ ลุงชายได้ไปที่เนินช้างศึก บ้านอิต่องอีก 1 คืน แต่จะหาโอกาสมารีวิวให้ชมในโอกาสต่อไปครับ


 
สำหรับทริป 4วัน 3 คืน ขับรถเที่ยวเมืองกาญจน์ใน 2 บทความรีวิวนี้ ลุงถ่ายรูปเยอะมาก กดชัตเตอร์แบบไม่เกรงใจกล้องกันเลย ก็ต้องขอขอบคุณไร่ทองธนา แหล่งเที่ยวแห่งใหม่ของอ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี สำหรับที่พักสวยๆ บรรยากาศดีๆกลางหุบเขาและไร่เกษตรอินทรีย์

 
และที่สำคัญขอบคุณ Chevrolet ที่ให้ยืมรถ Colorado Trailboss มาทดลองขับเที่ยว อยากบอกว่า ถูกใจลุงมากๆครับ ทั้งการขับขี่ การออกแบบ และการตกแต่ง ขับทางใกลมั่นใจและอบอุ่นมาก มีเกียร์สปอร์ตที่เราเปลี่ยนเกียร์เองได้ในยามขับขึ้นเขา ลงเขา ระบบความปลอดภัยก็ให้มาแบบเต็มพิกัดกันเลย แล้วเจอกันในทริปหน้านะครับ


 
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา

จากใจ ชายคาตะวัน
 

Comments

comments

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *