chaicatawan

เที่ยวเท่ใกล้กรุง..อยุธยา

เที่ยวเท่ใกล้กรุง
เที่ยวอยุธยา เที่ยวไทย



เที่ยวเท่ใกล้กรุงทริปนี้ ลุงชายคาจะพาไปฟินถิ่นกรุงเก่า เมืองมรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มีวัดและโบราณสถานมากมาย ของกินก็เพียบ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 76 กม. ทำให้ขับรถเที่ยวได้ง่าย และบ่อยๆ


ชมรีวิวเที่ยวเท่ใกล้กรุง ฉบับแรก สมุทรสงคราม คลิก http://www.chaicatawan.com/สมุทรสงคราม/


ครั้งนี้ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมครับ คือ เที่ยวไทยเที่ยวง่าย สนุกทุกทริป กับ 5จุดเช็คอิน 5วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ 5 กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ” โดยอยุธยา เป็นจังหวัดดาวรุ่ง ใกล้กรุง ขับรถเที่ยวได้สะดวก จะเที่ยวแบบ One Day Trip หรือค้างคืนสัก 1 คืน ก็สุดจะฟิน ทริปนี้ลุงชายขอนอนริมน้ำ ดื่มด่ำนทีเจ้าพระยาสักคืน



2 วัน 1 คืน ขับรถเที่ยว “อยุธยา”
วันที่1
1. จุดเช็คอินที่ 1 “วัดตะโก” อ.ภาชี
วัดตะโก ตั้งอยู่ที่ ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา วัดนี้กำลังโด่งดัง ด้วยบารมีของหลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีวัตถุมงคลเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเป็นพระนักพัฒนานำความเจริญรุ่งสู่ วัดตะโก ตลอดหลายปี ทำให้พุทธศาสนิกชนต่างเดินทางมากราบไหว้ และบูชาวัตถุมงคลกันอย่างคึกคัก

DCIM100MEDIADJI_0006.JPG



หลวงพ่อรวย ปาสาธิโก หรือ พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ มรณภาพเมื่อปี2560 สิริอายุครบ 95 ปี ลูกศิษย์เก็บสังขารไว้ และพบว่าสังขารไม่เน่าเปื่อย จึงได้เก็บรักษาไว้ในโลงแก้วเพื่อให้เหล่าลูกศิษย์และสาธุชนได้เข้ามากราบไหว้

อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดตะโก คือ พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก มีความสูงใหญ่ งดงามมาก ฝีมือการออกแบบของ ศิลปินแห่งชาติด้านสถาปัตยกรรมไทย เจดีย์มี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโล่งกว้างขนาดใหญ่ มีโลงแก้วบรรจุสังขาร หลวงพ่อรวย ที่เปิดให้สาธุชนเข้าไปกราบไหว้ ขอโชค ขอพร




ส่วนอีกจุดที่ห้ามพลาดคือ ศาลากลางน้ำ สำหรับนั่งพักผ่อนและให้อาหารปลา


และที่สำคัญ อย่าลืมเช่าบูชาวัตถุมงคล เหรียญชนะจน และเลสเงินพันล้าน กลับบ้านด้วยนะครับ



กิจกรรมด้าน “ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ” ที่วัดตะโกคือการสวมหน้ากากนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ครับ


2.จุดเช็คอินที่ 2 “วิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ ” อ.เมือง
ขับเข้ามาที่อ.เมืองบ้าง มาที่วิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ 2จุดนี้อยู่ใกล้กันครับ ลุงชายคาเลยรวบเป็น 1 จุดเช็คอิน ที่นี่ได้รับมาตรฐาน SHA ของ ททท. เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว ทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้หน้าบริเวณทางเข้า ยังมีแอ็ปชัยชนะให้สแกน และมีจุดคัดกรองและเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ

 

วิหารพระมงคลบพิตร ภายในมีพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย สูง12.45 เมตร หน้าตักกว้าง9.55 เมตร สวยงามมาก

 

จากนั้นเดินมาอีกหน่อย ก็ถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์ เสียค่าเข้าชม 10 บาท พร้อมสแกนเช็คอินอีกรอบ เข้าชมด้านใน มีนักท่องเที่ยวแต่งกายชุดไทยมาเดินถ่ายรูปกันพอสมควร สร้างสีสรรค์ และเป็นพร๊อพถ่ายภาพ



วัดพระศรีสรรเพชญ์ เปิดให้ชมถึง18.30 น. เป็นวัดที่ไม่มีพระจำพรรษา เพราะเป็นวัดประจำพระราชวัง อยู่ในเขตพระราชฐาน เป็นวัดต้นแบบของวัดพระแก้ว เด่นที่เจดีย์สามองค์ เรียงราย ภายในเจดีย์แต่ละองค์บรรจุพระบรมอัฐิธาตุของพระกษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์



เดินชมวัดแล้ว ก็มาเดินซื้อของกันบ้าง เป็นตลาดที่ขายของฝากอยู่ติดกับวัดเลย มีของขายหลากหลาย ทั้งของกิน ของใช้ เป็นหนึ่งในวิถีถิ่นกินเที่ยงเชิงวัฒนธรรมของชาวอยุธยา



3. จุดเช็คอินที่3 “วัดไชยวัฒนาราม” อ.พระนครศรีอยุธยา
ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตก นอกเกาะเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.



เป็นวัดที่ฮอตสุดๆ หลังจากที่ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ออกอากาสไปเมื่อปี2561 ซึ่งมีโบราณสถานหลายที่ของอยุธยา อยู่ในฉาก เป็นละครดัง ที่ติดกันงองแงมกันเลย วัดไชยวัฒนราม ก็เป็นวัดที่มีแฟนละคร มาเที่ยวเช่าชุดไทยถ่ายรูปกับวัดอย่างไม่ขาดสาย ใครมาเที่ยว ไม่ต้องเตรียมชุดไทยมานะครับ มาเช่าได้ที่ร้านหน้าวัด มีหลายร้านเลยครับ
วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2173 เดิมบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้ เคยเป็นที่อยู่ของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ เมื่อพระองค์ได้เสวยราชสมบัติ พระองค์จึงสร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์



อีกหนึ่งสันนิษฐาน วัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมร ทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด


ส่วนกิจกรรม “เที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ” ที่วัดไชยวัฒนาราม สวมหน้ากากอนามัย
ปล. ลุงชายคา มาเก็บแสงเย็นที่วัดไชยวัฒนาราม และเก็บภาพแสงกลางวันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น โดยคืนนี้ ลุงชาย เข้าพักที่ @บ้านริมน้ำอยุธยา โฮมสเตย์ เป็นบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศฟินมากๆ วิวแม่น้ำ และวิววัดพุธไธสวรรย์


เช้าอีกวัน เก็บภาพริมน้ำ ก่อนจะย้อนไปที่วัดไชยวัฒนารามอีกครั้ง



วันที่ 2
4. จุดเช็คอินที่ 4 “ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หรือ บ้านของพ่อ”


หลังจากเก็บภาพที่วัดไชย ตอนเช้าแล้ว ลุงชายก็บึ่งไปที่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หรือ บ้านของพ่อ ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดภูเขาทอง ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวัน ( หยุดวันจันทร์ ) เวลา 08.00-17.00 น. โทร 064 932 1838



บ้านของพ่อ มีเนื้อที่ทั้งหมด 3.5 ไร่ เกิดขึ้นจากนายอัมรินทร์ เซ็นเสถียร ประธานศูนย์ ที่ต้องการเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ให้กับคนทั่วไป โดยเปิดให้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกินพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ



ภายในศูนย์ตกแต่งสวยงาม เต็มไปด้วยแมกไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ และพืชเศรษฐกิจ มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านขายของฝาก

 

และมีกิจกรรมให้ทำอีก 6 ฐานคือ
1.ฐานกิจกรรมปักดำนา
2.ฐานกิจกรรมเลี้ยงแพะ แกะ
3.ฐานกิจกรรมปลาตะเพียนสาน
4.ฐานกิจกรรมไข่ไก่
5.ฐานกิจกรรมอาหารบ้านของพ่อ
6.ฐานกิจกรรมบ้านของพ่อ บ้านของฉัน

 


การเที่ยวที่ บ้านของพ่อ นอกจากของฝากแล้ว ลุงชายขอแนะนำสั่งบัวลอยไข่หวาน และเครื่องดื่ม เทพบุตรสีฟ้า เป็นเมนูยอดฮิตของที่นี่เลยครับ สั่งแล้วจะนั่งทานในร้านติดแอร์ หรือด้านนอก ก็ชิวเช่นกัน



5. จุดเช็คอินที่ 5 “ตลาดน้ำอโยธยา” อ.พระนครศรีอยุธยา
เปิดบริการทุกวัน จันทร์ -ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนัตขัตฤกษ์ เปิดเวลา 09.00 -21.00 น.



ตลาดน้ำอโยธยา เปิดบริการเมื่อปี2553 มีพื้นที่ทั้งหมด 80 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นตลาดที่สะท้อนถึงวิถีความเป็นอยู่แบบไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้า การแสดง การละเล่นต่างๆ มีโซนต่างๆแยกตามอำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยส่วนกลางจะเป็นน้ำ มีเรือนไทยรอบๆน้ำเป็นร้านขายของ



ลุงชาย มาเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา เป็นครั้งแรกครับ ยอมรับชอบ ตื่นตาตื่นใจเลย ชอบตรงบริเวณป้ายชื่อตลาด ที่มีน้ำและมีเรือบริการล่องลำคลองเที่ยวชมตลาด มันให้ความรู้สึกเป็นเมืองเก่าจริงๆ



ที่นี่ลุงทำกิจกรรมเรื่องการเที่ยวแบบปลอดภัยด้วยการสวมหน้ากาก และซื้อของกินที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ



ลุงเดินชมตลาดจนเมื่อยเลยครับ ของกินของใช้ ของฝาก สินค้าพื้นเมือง มากมายครับ สาธยายกันไม่หมด ถ่ายรูปกันมาไม่ครบแน่ๆ เลยอยากให้มาเที่ยวชมกันครับ



6.จุดเช็คอินที่ 6 (แถมจ้า ) “ตลาดโก้งโค้ง” อ.บางปะอิน
เปิดทุกวันพฤหัส -อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-16.00 น.



เป็นตลาดแนวโบราณ ตกแต่งได้สวยมาก ก่อนเข้าตลาด ต้องคัดกรองกันก่อน เพื่อความปลอดภัย



ที่มาของชื่อตลาดโก้งโค้ง มาจากสมัยโบราณ ที่เวลาเราไปเดินตลาด แม่ค้าจะวางของขายกับพื้น เวลาเลือกซื้อก็ต้องโก้งโค้งลงไปดูไปเลือกสินค้า

 

ภายในตลาดเดินเข้าไป ให้ความรู้สึกดีๆ มีโคมไฟประดับสวยงาม แปลกตา ร้านค้ามากมาย ของกิน ของใช้เพียบครับ ราคาไม่แพง



ที่นี่ลุงชาย ทำกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อความปลอดภัยและรับผิดชอบด้วยการสวมหน้ากากอนามัยครับ



อย่าลืมนะครับ มีเวลาว่างไม่ต้องมาก ก็มาเที่ยวอยุธยาได้ง่ายๆ เที่ยวเท่ๆใกล้ๆกรุง มาเที่ยวแล้วก็อย่าลืมทำกิจกรรมเที่ยวอย่างปลอดภัย ใส่หน้ากาก และหมั่นล้างมือบ่อยๆกันนะครับ

 

เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา

จากใจ ชายคาตะวัน
 

Comments

comments

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *