chaicatawan

เที่ยวเมืองกาญจน์ เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ที่ ไร่ทองธนา ทองผาภูมิ

 
เที่ยวเมืองกาญจน์ ทองผาภูมิ ไร่ทองธนา new landmarkแห่งทองผาภูมิ Chevrolet


 
ช่วงปลายหนาวในเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลุงชายคาได้มีโอกาสขับรถChevrolet Colorado Trailboss ออกไปเที่ยวจังหวัดเกือบไกลกรุงอย่าง กาญจนบุรี

 
แฮ่ๆที่ว่าเกือบไกลก็เพราะตัวอำเภอเมืองกาญจน์อยู่ใกล้กรุง แต่อำเภอที่ลุงชายไปเที่ยว คืออ.ทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จะว่าใกล้คงไม่ใช่ เพราะระยะทาง300กว่ากม.ที่ต้องขึ้นเขาลงเขา เอาเป็นว่าเกือบไกลแล้วกันนะ อิอิ

 
ไร่ทองธนา อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
แฟนเพจ ไร่ทองธนา
โทร 097-997-9965 093-149-9795 และ 096 -828-2935
 
การขับรถ Chevrolet Colorado Trailboss เที่ยวในทริปนี้ ลุงชายมีจุดหมายหลักอยู่ที่ ไร่ทองธนา อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวมถึงที่เที่ยวเมืองกาญจน์อีกหลายจุด


 
ไร่ทองธนา ตั้งอยู่กลางหุบเขาบ้านหินดาด อ.ทองผาภูมิ บนเนื้อที่ 10 ไร่ เป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีแนวคิดการทำเกษตรอินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริ โดยการสืบสาน น้อมนำพระราชปณิธาน ในหลวงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี มาเพื่อการอนุรักษ์ และถ่ายทอดสู่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีบ้านพักแบบ loftstyle อีก 3 หลัง พร้อมด้วยสวนดอกไม้ และร้านกาแฟ


 
4วัน 3 คืน ขับรถChevrolet Colorado Trail Boss เที่ยวเมืองกาญจน์
Chevrolet
แฟนเพจ Chevrolet
เว็บไซต์
www.chevrolet.co.th


 
ลุงชาย ออกจากบ้านย่านบางบัวทอง ใช้กูเกิลแม็ป นำทาง ปักหมุด ไร่ทองธนา อ.ทองผาภูมิ พร้อมแล้วไปกันเลย


 
รถที่ใช้ขับเที่ยวทริปนี้ คือ Chevrolet Colorado Trail Boss Edition สี Pull Me Over Red เป็นรถกระบะ 4 ประตูยกสูง แต่งพิเศษแบบ Off Road ซุ้มล้อสีดำแม็ค 18 นิ้ว สปอร์ตบาร์แท้จากโรงงาน Chevrolet กระจังหน้าเป็นสีดำพร้อมด้วยโลโก้โบว์ไทสีดำ ฝาท้ายกระบะติดสติกเกอร์พิเศษสีดำ เจาะเป็นโลโก้ Colorado ระบบความบันเทิง และระบบความปลอดภัยครบครัน คันนี้ตัวรถเป็นสีแดงโดดเด่นเห็นแต่ใกล เหมาะกับลุงชายจริงๆ อิอิ


 
น้ำตกไทรโยคน้อย
ขับมาได้พักใหญ่ครับ ขอแวะเที่ยวก่อน เป็นน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกยอดนิยมของคนไทย อยู่ริมถนนสาย323 เข้าเที่ยวชมเล่นน้ำฟรีครับ แต่วันนี้น้ำน้อยไปนิดครับ อาจจะม่สวยนัก แต่ก็ยังเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน


 
น้ำตกไทรโยคใหญ่
แวะถ่ายรูปไม่นานครับ ก็ขับต่อไป กับเจ้า Colorado Trail Boss แวะน้ำตกไทรโยคใหญ่ ครั้งนี้ต้องเสียเงินเข้าอุทยานครับ ค่าเข้า 100 บาท รถอีก30 บาท รวม 130 บาท เป็นอุทยานที่เก็บค่าเข้าแพงไปนิดครับลุงชายว่า หลังจ่ายเงินเสร็จสรรพ ก็ขับเข้าไปยังอุทยาน ไม่นานก็ถึงจุดจอดรถ แล้วเดินต่ออีกประมาณ500 เมตร ก่อนถึงตัวน้ำตก จะมีลำธารไหล เห็นเด็กๆกำลังเล่นน้ำ คงสนุกมาก ลุงชายก็อยากเล่นมั่งเนอะ แต่ไม่ดีกว่า อิอิ ลำธารที่เดินผ่านเมื่อครู่ จะไหลไปรวมกันเป็นน้ำตกไทรโยคใหญ่ ไหลลงแม่น้ำแควน้อย ถ้าจะให้เห็นน้ำตกเต็มๆ เราต้องเดินข้ามสะพานแขวนไปชมอีกฝั่ง


 
ไร่ทองธนา
พอได้ภาพน้ำตกไทรโยคใหญ่5-6ภาพแล้ว ก็ขับออกมาทางเดิม เลี้ยวซ้ายออกถนน 323 ขับต่อไป ไม่นานก็ถึง ไร่ทองธนา


 
ไร่ทองธนา มีพื้นที่ทั้งหมด 10 ไร่ เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเจอโซนแรกก่อนเลย เนื้อที่ 5 ไร่ เป็นโซนเกษตร อินทรีย์ ปลูกพืชหลายชนิด แบบผสมผสานตามแนวพระราชปณิธานศาสตร์พระราชา ซึ่ง “ ศูนย์เรียนรู้ไร่ทองธนา “ จะทำหน้าที่ให้ความรู้ การทำเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ แนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระยุคลบาท ล้นเกล้า ในหลวงรัชกาลที่ 9


 
ส่วนโซนที่2 อีก 5 ไร่ อยู่ถัดไป จัดแต่งสวนร้อนชื้นทรอปิคอลแบบผืนป่าตะวันตก มีสวนดอกไม้สวยงามพร้อมด้วนสน 2 ใบ และมีบ้านพักตกแต่งแบบ loftstyle 3 หลัง และมีร้านกาแฟเล็กๆ สำหรับนั่งดื่ม นั่งชิล


 
ร้านกาแฟไร่ทองธนา
เดินสำรวจไร่ทองธนาได้ไม่นาน ก็มาดื่มกาแฟในร้าน เป็นร้านกาแฟขนาดเล็ก ตกแต่งสวย มีมุมหนังสือให้อ่านด้วย ด้านนอกมีสระน้ำเล็กๆ ตกแต่งสวนหย่อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ พร้อมด้วยป้ายชื่อไร่ทองธนา ยังไงมาแล้วอย่าลืมถ่ายรูปมุมนี้นะครับ


 
บ้านพัก loftstyle 3 หลัง
ต่อไปจะพาชมบ้านทั้ง 3 หลังครับ ถ้ามองในระยะใกลจะเห็นว่าบ้านตั้งอยู่ในหุบเขา แวดล้อมด้วยป่า บริเวณบ้านตกแต่งด้วยสนามหญ้าเขียว สะอาดตา

 
ทั้ง 3 หลัง เป็นบ้านชั้นเดียว ขนาดกระทัดรัด กำลังน่ารักเลย หน้าบ้านมีระเบียงให้นั่งเล่น มีโต๊ะ เก้าอี้หน้าบ้านพร้อมร่มสีขาวกันแดดกันฝน
ลุงชายพักหลังแรกเลย ชื่อว่า เรือนพีรยา ภายในบ้านติดแอร์ มีทีวีจอใหญ่ พร้อมโต๊ะนั่งทำงาน มีตู้เย็นขนาดกลาง น้ำดื่มฟรี 2 ขวด เตียงนอนขนาดใหญ่


 
ถัดจากห้องนอน เป็นตู้เสื้อผ้า แล้วก็ห้องน้ำ มีเครี่องทำน้ำอุ่นด้วยครับ


 
สนธยาสวัสดิ์ ไร่ทองธนา
โลกหมุนเร็วจังแฮะ กำลังชมไร่ทองธนาเพลินๆ พระอาทิตย์ก็กำลังจะลับเหลี่ยมเขาซะแล้ว ไม่ได้การแระ ต้องรีบเก็บภาพพระอาทิตย์ตกก่อน


 
หลังจากนั้นก็เข้าสู่บรรยากาศของแสงทไวไลท์ อากาศเริ่มเย็นลง แสงทองก็เริ่มอ่อนแสง แสงงามๆอาจไม่ได้มีทุกวัน แต่บรรยากาศดีๆแบบนี้ ยามเย็นแบบนี้ ต้องรีบดื่มด่ำครับ

 
อรุณสวัสดิ์ ไร่ทองธนา
เมื่อคืนอากาศเย็นถึงหนาวเลยครับ ไม่คิดว่าเมืองกาญจน์อากาศจะเย็นขนาดนี้ นอนไม่ต้องเปิดแอร์ครับ ช่วงดึกราวๆ5ทุ่มเที่ยงคืน ออกมาชิวนอกบ้าน เป็นอะไรที่ลุงชอบจริงๆ นึกว่ากำลังอยู่บนดอยทางภาคเหนือยังไงยังงั้นเลย ทำให้เช้านี้ตื่นมาด้วยความสดชื่น สูดโอโซน ชมสวนดอกไม้ อาบแสงทองของวันใหม่แบบชิวๆ แถมมีหมอกหน่อยๆ เสริมให้บรรยากาศดีขึ้นอีกเยอะเลยครับ


 
จากนั้นก็แว๊บมาทานอาหารเช้าที่อาคารศูนย์เรียนรู้ มีกาแฟ กับข้าวต้ม อาหารเช้าแบบเรียบง่ายในไร่เกษตรอินทรีย์


 
ส่วนนี่คืออาหารกลางวันและอาหารค่ำครับ ใช้วัตถุดิบพืชผักต่างๆจากในไร่ เก็บสดๆมาปรุง ปลอดสารพิษ


 
ต่อไปลุงจะพาชมบ้านอีก 2 หลัง
เรือนจงกลณี
ดูเรือนจงกลณีก่อนนะครับ หลังนี้จะคล้ายๆกับเรือนพีรยา แต่พื้นที่ในบ้านจะกว้างกว่าครับ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในก็เหมือนๆกัน ห้องน้ำห็เหมือนๆกันครับ แต่รูปภาพบนหัวนอนจะไม่เหมือนกัน


 
เรือนวันวิสาข์
หลังนี้หันหน้าเข้าหาเรือนจงกลณี


 
ยามเย็นของวันที่2
ลุงก็ส่องพระอาทิตย์ตกอีก เพราะเมื่อวานไม่ได้ไข่แดง วันนี้เลยต้องแก้มือกันหน่อย


 
พอพระอาทิตย์หลบบังเขาแล้ว ก็มาเก็บบรรยากาศที่อาคารศูนย์เรียนรู้ แสงกำลังสวยเลย


 
เจ้าChevrolet Colorado Trailboss โพสต์ท่าที่สวนดอกไม้ให้ลุงถ่ายภาพ


 
กลับมาที่อาคารศูนย์เรียนรู้อีกครั้ง ฟ้าใกล้มืดแล้ว มีไฟแสงสีเล็กๆน้อยๆ ได้บรรยากาศดีแท้เชียว แถมด้วยคาราโอเกะ ให้ประชันพลังเสียงกันด้วยครับ นี่ถ้ามาเป็นกลุ่ม คงได้ดวลเพลงกันสนั่นเลย


 
อาหารค่ำ เพิ่มพลังในคืนนี้ครับ น้ำพริก ปลาทู กับผักจากไร่

 
วันที่3 ที่ไร่ทองธนา
เมื่อคืนอากาศหนาวเป็นคืนที่2 ฟินมากๆครับ อุณหภูมิ 16องศา เช้าๆตื่นมาชิวรับวันใหม่ ชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งที่ไร่ทองธนา เราจะเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก


 
นอกจากนี้ยังมีวิถีพุทธให้เห็น เราจะได้ใส่บาตรในตอนเช้าด้วยนะครับ


 
เก็บภาพใส่บาตรแล้วก็มาเดินถ่ายรูปดอกไม้ต่อ


 
ต่อไปลุงจะพามาชมอีกจุดนึงครับ อยู่ใกล้ๆกับร้านกาแฟ มีลักษณะคล้ายหน้าผา ด้านล่างเป็นลานหญ้า มีดอกไม้กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ลุงว่าเป็นจุดที่ยน่ากางเต็นท์เหมือนกันครับ

 
สายๆลุงเดินชมไร่ทองธนาโซนที่1 อีกครั้ง ชมต้นไม้ใบหญ้า พืชผักต่างๆ เห็นสีเขียวแล้วสบายตาดีครับ


 
ต่อด้วยสวนดอกไม้ยามสายๆ วันนี้ฟ้าใส แดดดีเชียว


 
การมาพักผ่อนที่ไร่ทองธนา นอกจากเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ชิวๆ ถ่ายรูปกับดอกไม้แล้ว เรายังไปเที่ยวยังสถานที่เที่ยวต่างๆได้อีกหลายที่ ลุงชายจะพาไปเที่ยวต่อ โดยลุงเลือกนอนอีกคืนที่จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หรืออีกที่ที่ลุงแนะนำคือนอนอีกคืนที่สังขละครับ
 
แต่ตอนนี้ก่อนอำลาไร่ทองธนา ก็ขอถ่ายภาพตัวเองไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย


 
น้ำตกผาตาด
พิกัด บ้านกุยมั่ง หมู่ที่ 8 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ
หลังถ่ายรูปเสร็จ ก็ได้เวลาล้อหมุนต่อ จุดแรกทีไปคือน้ำตกผาตาด ออกจากไร่ทองธนา ถึงถนนใหญ่เลี้ยวซ้ายไปอีกไม่ไกลนัก กูเกิ้ลแม็บแม่นมาก แต่วันนั้นไม่ค่อยมีมีน้ำครับ ทางอช.ให้เข้าฟรี (ปกติค่าเข้าคนไทย100 +รถอีก30 = 130 บาท แฮ่ๆแพงเหมือนกันเนอะ ) เพราะน้ำแห้งมาก แต่ที่ลุงชอบมากคือจุดกางเต็นท์ครับ กว้างใหญ่ มีลำธารไหลเอื่อยๆ จริงๆถ้าหน้าน้ำ น้ำจะเยอะกว่านี้ กางเต็นท์ เล่นน้ำคงจะฟิน


 
น้ำพุร้อนหินดาด
พิกัด ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180
โทร 034 531 557 ค่าเข้า 20 บาท
 
น้ำพุร้อนหินดาด อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกผาตาด เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ มีแร่ธาตุ บำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาแช่ บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่นเขียวขจี วันเสาร์ อาทิตย์ คนเยอะมาก มีร้านอาหารขายหลายร้าน ราคาไม่แพง


 
วัดท่าขนุน
ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของจังหวัดกาญจนบุรี อยู่บนทางหลวงสาย 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี จุดเด่นของวัดท่าขนุนคือพระพุทธเจติยคีรี ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา มีทางขึ้นเป็นบันได 200 ขั้นถึงยอดเขาที่ตั้งของเจดีย์ เป็นจุดชมวิวมุมสูงของอำเภอทองผาภูมิที่งดงามมาก


 
จุดชมวิวป้อมปี่
จากวัดท่าขนุน ลุงก็ขับเจ้า Chevrolet Colorado Trailboss ต่อ ใช้เส้น 323 มุ่งหน้าสังขละบุรี แต่จุดหมายในคืนนี้คือ กางเต็นท์นอนที่ จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

 
ติดตามการขับรถเที่ยวของลุงต่อในบทความตอนต่อไปครับ คลิก ขับ Chevrolet Colorado Trilboss เที่ยวเมืองกาญจน์

 
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา

จากใจ ชายคาตะวัน
 

Comments

comments

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *