chaicatawan

เที่ยวอุบล ชมโบสถ์เรืองแสง ..วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

เที่ยวอุบล วัดเรืองแสง วัดสิรินธรวราราภูพร้าว

.

ช่วงหยุดวันพ่อที่ผ่านมา (4-5-6 ธค. 57 )ผมได้ร่วมเดินทางไปส่งของกับน้องชาย ที่จังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมกับการไปเยี่ยมบ้านญาติที่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ และก็ถือโอกาสเก็บเกี่ยวความงามของแหล่งท่องเที่ยวมาฝากครับ สำหรับสถานที่ที่ผมตั้งใจจะต้องไปให้ได้ในทริปนี้ก็คือ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
0

.
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี

จริงๆผมเคยมาถ่ายรูปโบสถ์วัดสิรินธรภูพร้าว มาแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 57 ตอนนั้นร่วมทริปกับเพื่อนๆน้องๆสายโหด มาถ่ายทางช้างเผือกกัน ของผมถ่ายได้แค่นี้ครับ ไม่รู้ว่าเห็นช้างกันบ้างไหม แบบว่ามือใหม่หัดล่าช้างน่ะครับ อิอิ
3.1

3.2
.
ผมขับรถจาก อ.หัวตะพาน เข้าอุบล แล้วใช้เส้นไปพิบูลย์มังสาหาร –ช่องเม็ก วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ก่อนถึงช่องเม็กประมาณ 3 กม. มีป้ายบอกทางด้วยครับ ขึ้นเขามานิดหน่อย ก็ถึงแล้วครับ นี่คือจุดชมวิวของวัดใกล้ที่จอดรถครับ
3.3
3.4
.
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ตั้งอยู่ที่ ตำบลช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี บรรยากาศดีมากครับ วันนี้ฟ้าใสเลย ผมตื่นเต้นมากๆครับ
3.5
3.6
.
เดิมวัดแห่งนี้ชื่อ วัดภูพร้าว ซึ่งสมัยก่อนที่นี่จะมีหินทรายคล้ายๆลูกมะพร้าวเป็นจำนวนมาก หินจะมีลักษณะกลวง เมื่อทุบแตก จะเห็นภายในเป็นเนื้อทรายละเอียด ระยิบระยับคล้ายเพชรพลอย
3.7
.
ผู้ก่อตั้งวัดนี้คือ พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ ชาวจำปาสัก สปป.ลาว ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใหญ่ในหลวงปู่เสาร์ และเป็นศิษย์คนสำคัญของพระอาจารย์ทองรัตน์ ซึ่งทั้งหลวงปู่เสาร์ และพระอาจารย์ทองรัตน์เป็นอริยบุคคลชั้นสูง พระอาจารย์บุญมากถือธุดงค์วัตร มักน้อย สันโดษ ธุดงค์ไปตามป่าเขาอันกันดาร จนถูกขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งขุนเขา ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาถึงเมืองไทย เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชน ทุกชั้นวรรณะเรียกท่านว่า เทพเจ้าสองแผ่นดิน
3.8
.
ในปี พ.ศ. 2495-2498 พระอาจารย์บุญมาก ได้ก่อสร้างวัดภูพร้าวขึ้นมา ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนแบ่งเขตไทย –ลาว เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ไทย –ลาว ในปี 2516-2517 พระอาจารย์บุญมาก ได้กลับไปยังวัดภูมะโรง เมืองจำปาสัก วัดภูพร้าวจึงถูกปล่อยรกร้างเรื่อยมา และพระอาจารย์บุญมาก มรณภาพในปี 2524
3.9
.
ปี 2542 พระครูกมลภาวนากร (สีทน กมโล ) แห่งวัดภูหล่น อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้มาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดภูพร้าวขึ้นใหม่ ต่อมาในปี 2549 หลวงพ่อสีทน ก็มรณภาพลง
3.10
.
ปัจจุบันวัดมีเนื้อที่ 500 ไร่ ตั้งอยู่บนเขา แม้ไม่สูงมากนัก แต่ทัศนียภาพก็สวยงาม มีจุดชมวิวหลายจุด และสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้
3.11
3.12
.
และที่โดดเด่นมากๆก็คือ โบสถ์ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะล้านช้าง คล้ายๆกับวัดเชียงทอง เมืองหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว
3.13
3.14
3.15
3.16
3.17
.
และที่เป็นไฮไลท์คือที่ด้านหลังของผนังโบสถ์ มีประติมากรรมภาพต้นไม้เรืองแสงสีเขียว ซึ่งจะเรืองแสงในเวลาตอนกลางคืนสวยงามมาก เห็นแล้วสะดุดตายิ่งนัก ซึ่งช่างผู้รังสรรค์ได้แรงบันดาลใจการเรืองแสงมาจากภาพยนตร์เรื่อง อวตาร แต่ก่อนที่จะถ่ายรูปต้นไม้เรืองแสงหลังโบสถ์ เราก็ต้องถ่ายตอนพระอาทิตย์ตกกันก่อนครับ
3.18
3.19
3.20
.
ภายในโบสถ์ครับ
3.21
.
พระประธานงดงามมากครับ
3.22
.
โบสถ์วัดภูพร้าวนี้ ยังสร้างไม่เสร็จ วันที่ผมไปหลายๆส่วนยังคงมีนายช่างบรรจงแต่งแต้มลวดลายอย่างพิถีพิถัน หัวหน้าทีมช่างบอกผมว่าอีก 2 ปี โบสถ์ถึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์
3.23
.
ผมเก็บภาพช่วงตะวันจะลับขอบฟ้าอย่างเพลิดเพลิน เพราะเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงาม และอากาศก็เย็นสบายอีกด้วย
3.24
3.25
3.26
.
วันนี้เห็นไข่แดงด้วยครับ แต่เป็นแบบไม่เต็มใบ เสียดายไม่ได้เอาเลนส์เทเลมาด้วย เป็นเพราะความขี้เกียจ น่าเขกกบาลตัวเองจริงๆ
3.27
3.28
.
หลังจากตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว เราก็มานั่งรอแสงทไวไลท์กันครับ นั่งอาบสายลม ห่มท้องฟ้า กับอากาศเย็นๆซักพัก แสงทไวไลท์ก็เริ่มมา
3.29
.
ย้ายมาถ่ายมุมนี้บ้าง ได้แสงสวยๆสีส้มของพระอาทิตย์ที่เพิ่งตกไป ช่วงเวลานี้ ภาพต้นไม้หลังโบสถ์ยังไม่เรืองแสง ต้องรอให้มืดกว่านี้
3.30
.
เมื่อยังไม่เรืองแสง ผมก็ย้ายมาถ่ายด้านหน้าโบสถ์บ้าง
3.31
.
ภาพนี้มุมตรงด้านหน้า ผมชอบมาก มันช่างงดงามจับใจจริงๆ เสียดายว่า ถ่ายช้าไปนิดครับ มืดไปหน่อย
3.32
.
กลับไปลุ้นด้านหลังโบสถ์อีกครับ พอดีได้เจอเพื่อนในพันทิปโดยบังเอิญ ซึ่งเป็นเจ้าของภาพแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากมาถ่ายโบสถ์แห่งนี้ครับ แล้วผมก็ได้คำแนะนำดีๆในการถ่ายภาพต้นไม้เรืองแสงครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ภาพนี้เริ่มๆเรืองหน่อยๆแล้ว
3.33
.
ส่วนภาพนี้ เรืองมากขึ้น สวยงามมากครับ ผมถ่ายรูปอย่างมีความสุข
3.34
.
วันที่ผมมาถ่ายรูปที่นี่เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์สว่างมาก ทำให้เห็นดาวบนฟ้าน้อยไปหน่อยถ้าได้มาถ่ายรูปในคืนเดือนมืด จะได้ต้นไม้เรืองแสงสวยๆและได้มวลหมู่ดาวเต็มท้องฟ้าอีกด้วย หรือถ้าโชคดี สภาพอากาศเป็นใจ ก็จะได้ทางช้างเผือก เชือกงามๆแถมมาให้อีกต่างหาก
3.35
.
ผมมาถึงวัดตอน4โมงเย็น ได้รูปฟ้าสวยใสหลายรูปครับ ส่วนรูปช่วงเย็น ทั้งพระอาทิตย์ตก และทไวไลท์ ก็ได้มาเป็นที่พอใจครับ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ผมว่า วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวแห่งนี้ เป็นวัดที่สวยมาก ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้มา ผมคงต้องหาโอกาสกลับมาอีกแน่นอน
3.36
.
การออกมาเที่ยวทริปนี้ ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าผมรอให้มีเวลาว่าง แล้วค่อยออกเดินทาง ผมก็คงต้องรอต่อไป การไม่ตัดสินใจ ก็จะไม่ได้ในสิ่งที่คิดไว้ หวังไว้ การรอโอกาสและผลัดวันประกันพรุ่ง มีแต่จะเสียโอกาสไปเรื่อยๆ
3.37
3.38
.
เมืองไทยยังมีที่เที่ยวมากมาย รอพวกเราอยู่
3.39

เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา
‘ชายคาตะวัน’

Comments

comments

4 Comments

  1. coach factory

    I used to be very happy to find this web site. I wanted to thanks for your time fo this wonderful read !!

    Reply
    1. admin (Post author)

      Thank you

      Reply
  2. admin (Post author)

    Thank You

    Reply
  3. วาสนา

    เป็นวัดที่มีความสวยงามมากๆ เลยค่ะ ยิ่งตอนกลางคืนที่เรืองแสงยิ่งสวย สาทำบุญอย่างเราจะพลาดไม่ได้นะคะ

    Reply

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *