chaicatawan

กาญจนบุรี มีดีอะไร ถึงน่าเที่ยว

กาญจนบุรี สังขละ ทองผาภูมิ วัดถ้ำเสือ

ช่วงนี้ย่างเข้าสู่ปลายปีกันแล้ว อากาศหนาวบ้าง ร้อนบ้าง บางวันยังมีฝนตก ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ จะได้ออกเที่ยวอย่างมีความสุข
 
เที่ยวเท่ใกล้กรุงตอนที่8 ลุงชายคาจะพาไป เที่ยวจังหวัด กาญจนบุรี เมืองใกล้กรุงที่น่าเที่ยว เมืองหนึ่งของไทย เมืองกาญจน์ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยภูเขา แมกไม้ และสายน้ำ จะเที่ยวป่าเขา น้ำตก แม่น้ำ หรือเที่ยวแนววัฒนธรรมท้องถิ่น มีให้ครบครับ


 
เมืองกาญจน์ เป็นจังหวัดใหญ่ ทำให้การเที่ยวเมืองกาญจน์ อาจจะมีทั้งใกล้และค่อนข้างไกล แต่ทริปนี้ลุงชายคา ไปเที่ยวถึงสังขละบุรี อำเภอชายแดน ติดกับพม่ากันเลย ทำให้ต้องใช้เวลาเที่ยวหลายวัน เพราะไม่อยากเที่ยวแบบเร่งรีบ

 
เช่นเคยครับ ทริปนี้คอนเซ็ปท์การเที่ยวครับยังเหมือนเดิม นั่นคือ เที่ยวไทยเที่ยวง่าย สนุกทุกทริป กับ 5จุดเช็คอิน 5วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ 5 กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ

 
ทริปขับรถฟินๆ เที่ยวเมืองกาญจน์
5จุดเช็คอิน
1.จุดเช็คอินที่ 1 “วัดถ้ำเสือ” อ.ท่าม่วง
2.จุดเช็คอินที่2 “ศูนย์เรียนรู้ไร่ทองธนา” อ.ทองผาภูมิ
3.จุดเช็คอินที่ 3 “เขื่อนวชิราลงกรณ์” อ.ทองผาภูมิ
4.จุดเช็คอินที่ 4 “ด่านเจดีย์สามองค์” อ.สังขละบุรี
5.จุดเช็คอินที่ 5 “สะพานมอญ” อ.สังขละบุรี

 
5วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
1.ร้านเกี๋ยวเตี๋ยวห้อยขา “รักษ์คันนา” อ.ท่าม่วง
2.ร้านกาแฟ “มีนาคาเฟ่” อ.ท่าม่วง
3.ขนมทองโยะ และของกินของฝากจากไร่ทองธนา อ.ทองผาภูมิ
4.ของกินของฝาก ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละ
5.ตลาดสะพานมอญ

 
5จุดเช็คอิน
1. จุดเช็คอินที่ 1 “วัดถ้ำเสือ” ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง

 
จุดแรกลุงจะพาไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือ วัดที่สวย และดังของเงืองกาญจน์ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยครับ

 
วัดถ้ำเสือ ก่อตั้งในปี พ.ศ.2514 โดยพระครูสิทธิวิมล ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา และพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทยประดับลวดลายสวยงาม มีเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร เป็นวัดที่อยู่บนเขา มองเห็นวิวทุ่งนา ทะเลสาบ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ สวยมากๆ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2526


 
การขึ้นชมวัดมี 3 วิธีคือ
1 เดินขึ้นบันได แฮ่ๆ อันนี้ สูงพอสมควร สูงวัยแบบลุงชายคา เลยขอบาย อิอิ
2.นั่งรถรางไฟฟ้า ค่าบริการ 10 บาท
3.ขับรถขึ้น ด้านข้างๆวัด มีที่จอดรถให้พร้อมเลย

 
วัดถ้ำเสือ เปิดให้เที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน เวลา 07.30 – 16.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-655383

 

ร้านก๋วยเตี๋ยวรักษ์คันนา

อยู่หลังวัดถ้ำเสือ ตกแต่งสวย มีมุมถ่ายรูปเพียบ ที่สำคัญวิววัดถ้ำเสือ กับนาข้าวเขียวๆ สวยจนเกือบลืมกนเตี๋ยวครับ อิอิ


 
มีนา Cafe
อยู่ด้านหลังวัดถ้ำเสือเช่นกัน เป็น Cafe ยอดนิยมของเมืองกาญจน์เลยครับ ลูกค้าแน่นร้าน กาแฟหอม รสชาติดี เค้กอร่อย



 
จุดถ่ายรูปเยอะครับ ถ่ายรูปกันเพลินๆ มีทางเดินบนนาข้าว มีนางแบนายแบบ มาเดินไม่ขาดสายครับ แฮ่ๆ


 
2.จุดเช็คอินที่2 “ศูนย์เรียนรู้ไร่ทองธนา” อ.ทองผาภูมิ

แฟนเพจ ไร่ทองธนา
โทร 097-997-9965 093-149-9795 และ 096 -828-2935
 
ทริปนี้เราบอกแล้วว่า ขับชิวๆครับ ไม่รีบ พอเข้าวัดถ้ำเสือ กินเตี๋ยว กินกาแฟ ก็เริ่มจะเข้าเวลายบ่ายแก่ๆแล้ว จึงบึ่งรถไปที่ ไร่ทองธนา กันเลย
ไร่ทองธนา ตั้งอยู่กลางหุบเขาบ้านหินดาด อ.ทองผาภูมิ เนื้อที่ 10 ไร่ เป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีแนวคิดการทำเกษตรอินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริ โดยการสืบสาน น้อมนำพระราชปณิธาน ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเพื่อการอนุรักษ์ และถ่ายทอดสู่ชุมชน



 
ไร่ทองธนา มีบ้านพักแบบ loftstyle 3 หลัง อยู่ท่ามกลางหุบเขาและผืนป่า บรรยากาศดี มีลานสนามหญ้าหน้าบ้านให้ทำกิจกรรมด้วย


 
นอกจากนี้ในบริเวณไร่ ยังมีสวนดอกไม้ แปลงเกษตร และร้านกาแฟเล็กๆอีกด้วย


 
บรรยากาศในยามเช้า หมอกลง ฟินมากๆครับ ลุงชายเดินเล่นในบรเวณไร่ด้วยความฟิน


 
สำหรับ วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่3 คือขนมทองโยะ และของกินของฝากจากไร่ทองธนา
ขนมทองโยะ จะถูกเสิร์ฟเป็นอาหารเช้า มาพร้อมชา มีนมข้นหวานให้จิ้ม


 
ขนมทองโยะ หรือ หมี่สิ เป็นขนมของชาวกระเหรี่ยง เป็นขนมมงคล ทำจากข้าวเหนียวน่งสุก คลุกกับเกลือและงา หรือเมล็ดแง (เป็นเมล็ดงาชนิดหนึ่ง มีกลิ่นหอมสีน้ำตาลอ่อน) นำไปตำในครกจนข้าวเหนียวและส่วนผสมแหลกเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปปั้นเป็นแผ่น แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปทอดน้ำมัน กินเปล่าๆจะกรอบนอกนุ่มใน รสหวานอมเค็มเล็กน้อย แต่ถ้าจิ้มนมข้นหรือน้ำผึ้ง ก็จะอร่อยไปอีกแบบ

 
3. จุดเช็คอินที่ 3 “เขื่อนวชิราลงกรณ์” อ.ทองผาภูมิ
เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม อยู่ที่อ.ทองผาภูมิ ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ 153 กม.

 
ก่อนเข้าชมเขื่อน จะต้องผ่านจุดคักรองก่อน

 
การก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม มีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เขื่อนวชิราลงกรณ” เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร และยาว 1,019 เมตร สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ


 
ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อ.ทองผาภูมิและอ.สังขละบุรี นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อนได้

 
ช่วงนี้ทางเขื่อนปลูกดอกไม้สวยๆ ไว้ให้ประชาชนเข้าเที่ยวชมและถ่ายรูป เป็นดอกเสี้ยนฝรั่ง และดอกดาวกระจาย วันที่ลุงไป 18 พย.63 กำลังบานสวยเลยครับ
เขื่อนวชิราลงกรณ์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.00 – 18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร.+66 3459 9077 ต่อ 2502, 2506 หรือ โทร.+66 2436 6046-8


 
4.จุดเช็คอินที่4 ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละ
จากเขื่อนวชิราลงกรณ์ เราย้อนกลับมาที่ตัวอำเภอทองผาภูมิ แล้วมุ่งไปอ.สังขละ ก่อนถึงตัวสังขละ จะมีทางแยกขวามือ ไปด่านเจดีย์สามองค์ ลุงชายเคยมาแล้ว1ครั้ง แต่นานมากกๆๆ น่าร่วมสิบปีเห็นจะได้ ระหว่างทาง 2 ข้างถนนสวยงามครับ ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์ มีภูเขาลูกสวย ตระหง่านคอยต้อนรับ


 
สำหรับช่วงนี้ ด่านเจดีย์สามองค์ปิดนะครับ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19


 
แต่เรายังสามารถซื้อของกินของฝากได้ มีขนมอร่อยๆจากฝั่งเมียนมาร์ และของใช้อื่นๆอีกมากมาย


 
5.จุดเช็คอินที่ 5 “สะพานมอญ” อ.สังขละบุรี

ลุงชาย มาถึงสังขละ ตอนเกือบค่ำ เราตัดสินใจนอนเต็นท์ครับคืนนี้ เราได้ที่กางเต็นท์ที่เรนไชน์ รีสอร์ท วิวสะพานมอญ สวยมาก ค่ากางเต็นท์คนละ100 บาท แต่ถ้าพ่วงไฟไปใช้ในเต็นท์ คิดค่าพ่วงอีก50 บาทครับ


 
สะพานมอญ สังขละ เป็นจุดเที่ยวที่ฮอตที่สุดจุดหนึ่งของเมืองกาญจน์ ลุงชายเคยมาที่สะพานมอญ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ยังประทับใจไม่ลืม

 
สะพานมอญ มีชื่อทางการว่า “สะพานอุตตมานุสรณ์” เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า สะพานมอญ ถือเป็นสัญลักษณ์ของอ.สังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวสังขละบุรี เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่มาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมชมวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญ

 
สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาสะพานมอญก็คือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสะพาน ที่เป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทยในดินแดนสุดขอบประเทศไทย โดยเฉพาะการถ่ายรูปกับน้องๆหนูๆชาวมอญ ที่มาคอยต้อนรับบนสะพาน มีบริการปะแป้ง ทานาคาด้วย ส่วนนักนักท่องเที่ยวก็มอบสินนำใจเล็กๆน้อยๆให้น้องๆ เป็นภาพที่ลุงชาย ประทับใจมากๆ โดยเฉพาะเห็นเด็กๆ แล้วอยากมีลูกกับเขาบ้าง อิอิ


 
การมาเที่ยวสะพานมอญ ควรมาแต่เช้า เวลา 06.00 – 08.00 น. เพราะจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวมอญ ใส่บาตรพระทุกเช้า นักท่องเที่ยวสามารถใส่บาตรได้ แล้วก็มีอาหารและของกินของฝากขายมากมาย บริเวณตลาดสะพานมอญ




 
ก่อนจากกันในทริปนี้ ลุงชาย ก็ขอฝากไว้เหมือนเดิมครับ ออกเดินทางเที่ยวเมืองไทย เป็นเที่ยวช่วยไทย แต่ยังไงก็อย่าลืมเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบนะครับ ล้างมือบ่อยๆ สวยหน้ากาก ทิ้งขยะลงถัง ทำตามกฏของสถานที่ ฯลฯ แล้วพบกันใหม่ โชคดีมีเงินเที่ยวเยอะๆนะครับ

 
เที่ยวไป ยิ้มไป เมืองไทยของเรา
จากใจ ชายคาตะวัน

Comments

comments

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *